ติดตั้ง Centos 7: วิธีใช้งานที่ไม่ต้องใช้เครื่องหมาย

ติดตั้ง CentOS 7: ขั้นตอนและวิธีการ
CentOS 7 เป็นระบบปฏิบัติการฐาน Linux ที่มีความเป็นทางการและมีความเสถียรแก่ระบบที่สุด เนื่องจากมาพร้อมกับการปรับปรุงและการอัปเกรดต่อเนื่อง เวอร์ชันที่ให้มา ในบทความนี้ เราจะศึกษาขั้นตอนการติดตั้ง CentOS 7 และวิธีการปรับแต่งและอัปเดตระบบ

1. ตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบขั้นต่ำสำหรับการติดตั้ง CentOS 7
ก่อนที่จะเริ่มต้นติดตั้ง CentOS 7 เราควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบขั้นต่ำ เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณสามารถรองรับระบบปฏิบัติการนี้ได้ คุณต้องมี:
– CPU ที่รองรับเทคโนโลยี 64-bit
– RAM อย่างน้อย 2 GB
– เนื้อที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ อย่างน้อย 20 GB
– การ์ดแสดงผลที่รองรับ DirectX 9.0c

2. ดาวน์โหลดและสร้างสื่อติดตั้งของ CentOS 7
หลังจากที่คุณได้ตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบลงแล้ว คุณสามารถดาวน์โหลด CentOS 7 ได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ CentOS โดยเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสิ้น คุณต้องสร้างสื่อติดตั้งเช่น CD หรือ USB เพื่อใช้ในการติดตั้ง

3. เตรียมคอมพิวเตอร์สำหรับการติดตั้ง CentOS 7
ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นติดตั้ง CentOS 7 คุณควรเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณให้พร้อม โดยรวมถึง:
– คอมพิวเตอร์หลักที่มีค่า BIOS ที่สามารถตั้งค่าจากโหมด UEFI เป็นโหมดพร้อมสำหรับเป็นอาร์ติเฟคแบบ Legacy
– แผ่นติดตั้ง CentOS 7 หรือ USB
– เมนูการบูตสำหรับเลือกติดตั้ง CentOS 7
– การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร

4. ติดตั้ง CentOS 7 บนเครื่องคอมพิวเตอร์
เมื่อคุณเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณเรียบร้อยแล้ว ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อเริ่มต้นติดตั้ง CentOS 7:

4.1 ระบุการตั้งค่าภาษาและที่ตั้งเพื่อความถูกต้อง
เมื่อคอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มต้น คุณจะต้องระบุการตั้งค่าภาษาและที่ตั้งของคุณ โดยปรับแต่งตามที่คุณต้องการ

4.2 ระบุข้อตกลงในการใช้งาน
คุณจะต้องยอมรับข้อตกลงในการใช้งานก่อนที่คุณจะดำเนินการต่อไป

4.3 กำหนดการตั้งค่าเครือข่าย
ในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องกำหนดการตั้งค่าเครือข่าย เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้

4.4 เลือกและตั้งค่าฮาร์ดแวร์ที่ต้องการ
คุณจะต้องเลือกและตั้งค่าฮาร์ดแวร์ที่คุณต้องการโดยปรับแต่งตามความสะดวกของคุณ

4.5 กำหนดพาร์ติชันการตั้งค่าบันทึกข้อผิดพลาด
การตั้งค่าบันทึกข้อผิดพลาดจะช่วยให้คุณตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระบบ

4.6 ปรับแต่งตัวเลือกการติดตั้งเริ่มต้น
คุณจะสามารถปรับแต่งตัวเลือกการติดตั้งเริ่มต้นของคุณตามความต้องการของคุณ

4.7 ติดตั้งบอทโลดเดอร์และโปรแกรมสำหรับงานที่เพิ่มเติม
ในขั้นตอนสุดท้าย คุณสามารถติดตั้งบอทโลดเดอร์และโปรแกรมสำหรับงานที่คุณต้องการเพิ่มเติมในระบบ CentOS 7

5. ปรับแต่งและอัปเดต CentOS 7
หลังจากที่คุณได้ติดตั้ง CentOS 7 สามารถทำการปรับแต่งและอัปเดตระบบได้ตามต้องการ ดังนี้:

5.1 ปรับแต่งตัวเลือกการทำงานในระบบ
คุณสามารถปรับแต่งตัวเลือกการทำงานในระบบของคุณตามความต้องการ เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างตรงทางและมีประสิทธิภาพสูงสุด

5.2 อัปเดตแพตช์และเคล็ดลับที่สำคัญ
อัปเดตแพตช์และเคล็ดลับสำคัญอื่น ๆ ที่เผยแพร่โดย CentOS เพื่อแก้ไขบัคและปรับปรุงระบบ

5.3 ติดตั้งและปรับแต่งทรัพยากรพื้นฐานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ในขั้นตอนนี้ คุณสามารถติดตั้งและปรับแต่งทรัพยากรพื้นฐานเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น กำหนดค่า CPU, RAM, เครื่องหมายฮาร์ดดิสก์และอื่น ๆ

5.4 รักษาความปลอดภัยโดยกำหนดการตั้งค่าที่เหมา

จงอธิบายขั้นตอนการติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS

CentOS เป็นระบบปฏิบัติการแบบโอเพนซอร์สที่มีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานเซิร์ฟเวอร์หรือการทำงานในสภาพแวดล้อมของธุรกิจ อธิบายขั้นตอนการติดตั้ง CentOS จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับรู้ถึงขั้นตอนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS อย่างชัดเจน

ขั้นแรกในกระบวนการติดตั้ง CentOS คือการดาวน์โหลดไฟล์ ISO จากเว็บไซต์หรือที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน CentOS เท่านั้น เมื่อไฟล์ดาวน์โหลดเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องทำการเขียนไฟล์ ISO ไปยังแผ่น DVD หรือ USB ที่จะใช้ในกระบวนการติดตั้ง คุณสามารถใช้โปรแกรมเขียนแผ่นอิมเมจ เช่น Rufus (สำหรับ Windows) หรือ Etcher (สำหรับ macOS) เพื่อช่วยในการเขียนไฟล์ ISO

เมื่อได้แผ่น DVD หรือ USB ที่มีไฟล์ ISO ของ CentOS ให้ทำการบูตระบบคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยแผ่น DVD หรือ USB ที่ติดตั้ง CentOS เมื่อระบบเริ่มต้นขึ้น คุณจะพบกับหน้าแรกของตัวระบบติดตั้ง CentOS

ในหน้าแรกของตัวระบบติดตั้ง CentOS จะมีเมนูเลือกภาษาที่ต้องการใช้งาน ซึ่งคุณสามารถเลือกภาษาของคุณได้ ต่อมาให้คลิก Next เพื่อดำเนินการต่อไป

หลังจากนั้น คุณจะพบกับหน้าแรกที่จะถูกติดตั้ง CentOS ให้คลิกที่ Install CentOS 8.0 เพื่อเริ่มกระบวนการติดตั้ง

ในหน้าถัดไป คุณต้องกำหนดภาษาที่คุณต้องการใช้งานทั้งในระบบปฏิบัติการและที่พัฒนาโปรแกรม กรุณาเลือกภาษาที่คุณต้องการใช้งาน แล้วคลิก Next

หลังจากนั้น คุณต้องเลือกเลือกที่ประเทศหรือภูมิภาคของคุณตั้งค่าของ Centos แล้วตั้งเขตเวลาให้ถูกต้อง คลิก Next เพื่อดำเนินการต่อไป

ในหน้าถัดไป คุณจะเห็นใบรายการฮาร์ดดิสก์หรือไดรฟ์ทั้งหมดในเครื่องของคุณ ที่รองรับการติดตั้ง CentOS คุณสามารถเลือกไดรฟ์ที่คุณต้องการติดตั้ง CentOS เพื่อให้มีพื้นที่การจัดเก็บเพียงพอสำหรับระบบปฏิบัติการ คุณสามารถเลือกใช้การติดตั้งให้กับไดรฟ์ที่มีระบบได้ เช่น Standard Partition, Logical Volume Management, BTRFS, ZFS, หรืออื่น ๆ คลิกค้างที่การจัดการระบบไดรฟ์เพื่อใส่การตั้งค่า, การใช้พื้นที่ว่างอื่น ๆ คลิก Done เมื่อคุณได้เสร็จสิ้นการตั้งค่าการติดตั้งระบบไดรฟ์

หลังจากนั้น ในหน้าถัดไป คุณจะถูกต้องใบรายการที่หน้าจอซึ่งในนั้นคุณต้องทำการกำหนดชื่อระบบเครือข่ายของคุณให้ถูกต้องตามที่คุณต้องการ คลิกปุ่มการตั้งค่าเครือข่าย เพื่อดำเนินการต่อไป

ภายในหน้าการตั้งค่าเครือข่าย คุณต้องเลือกการกำหนดค่า Statil IP setting ได้แก่ เครือข่ายไร้สาย (Wired) Ethernet, Bonding, VLAN, Teaming, Infibands, และอื่น ๆ การตั้งค่าเครือข่ายนี้จะขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณต้องการจะใช้งาน CentOS ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้เครือข่ายไร้สายหรือ Ethernet ได้ตามความพึงพอใจ

หลังจากตั้งค่าเครือข่าย คุณต้องทำการเชื่อมต่อกับบริการในระบบของคุณเพื่อทำงานสำหรับการอัปเดตและลงคำค้นหาแพคเกจ (Package) คุณสามารถปิดการเชื่อมต่อหากคุณไม่ต้องการเชื่อมต่อกับบริการนี้ คลิกเสร็จสิ้นเพื่อดำเนินการต่อไป

ในหน้าถัดไป คุณต้องระบุรหัสผ่าน (root password) สำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ควบคุมระบบ CentOS ให้ป้อนรหัสผ่านที่เข็มขั้นรหัสผ่านที่พิมพ์ของคุณให้เป็นปลอดภัยและเก็บไว้อย่างปลอดภัย ข้อความคำเตือนจะปรากฎเพื่อเตือนคุณในกรณีที่รหัสผ่านไม่ปลอดภัยบางเรื่อง คลิกที่ Done เมื่อคุณได้ป้อนรหัสผ่าน

เมื่อคุณเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด คุณสามารถคลิก Reboot เพื่อรีสตาร์ทระบบเพื่อทำการติดตั้ง CentOS

หลังจากที่ CentOS รีสตาร์ทระบบเรียบร้อยแล้ว ระบบจะเริ่มต้นโดยแสดงหน้าเข้าระบบ (Login Screen) โดยคุณสามารถเข้าสู่ระบบ CentOS ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ

FAQs

1. ฉันสามารถติดตั้ง CentOS บนเซิร์ฟเวอร์เสมือนหรือไม่?
ใช่ คุณสามารถติดตั้ง CentOS บนเซิร์ฟเวอร์เสมือน (Virtual Server) ได้โดยใช้โปรแกรมเช่น VMware, VirtualBox, หรือ Hyper-V เพื่อสร้างเครื่องเสมือนที่คุณสามารถติดตั้ง CentOS

2. ฉันสามารถใช้ USB ในการติดตั้ง CentOS ได้หรือไม่?
ใช่ คุณสามารถใช้ USB ในการติดตั้ง CentOS ได้ ในขั้นตอนการเขียนไฟล์ ISO คุณสามารถนำไฟล์ ISO ของ CentOS ลงบน USB โดยใช้โปรแกรมเช่น Rufus (สำหรับ Windows) หรือ Etcher (สำหรับ macOS)

3. CentOS มีระบบไดรฟ์ใดที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้ง?
CentOS สามารถติดตั้งได้บนระบบไดรฟ์แบบ Standard Partition, Logical Volume Management, BTRFS, และ ZFS คุณสามารถเลือกระบบไดรฟ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

4. ฉันสามารถทำการอัปเดต CentOS หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วได้อย่างไร?
คุณสามารถอัปเดต CentOS ได้โดยใช้คำสั่ง `yum update` ในระบบปฏิบัติการ CentOS เพื่ออัปเดตแพคเกจ (Package) และติดตั้งแพคเกจที่อัปเกรด

5. ฉันจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับบริการทางเครือข่ายในขณะติดตั้ง CentOS หรือไม่?
ไม่ การเชื่อมต่อกับบริการในระบบในขณะติดตั้ง CentOS เป็นการเชื่อมต่อเพื่อใช้ในการอัปเดตและลงคำค้นหาแพคเกจเท่านั้น คุณสามารถปิดการเชื่อมต่อหากไม่ต้องการใช้งานบริการนี้

6. CentOS รองรับเครือข่ายไร้สายหรือไม่?
ใช่ CentOS รองรับการใช้งานเครือข่ายไร้สาย คุณสามารถเลือกใช้เครือข่ายไร้สายหรือ Ethernet ตามความเหมาะสมและความพึงพอใจของคุณ

ติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ CentOS 7

เว็บเซิร์ฟเวอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในโลกของอินเทอร์เน็ต การติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์บนระบบปฏิบัติการ CentOS 7 จะช่วยให้คุณสามารถจัดการและกำหนดความเร็วในการดำเนินการของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมืออาชีพ ในบทความนี้เราจะพูดถึงกระบวนการติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์บน CentOS 7 อย่างละเอียดพร้อมกับการตอบคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้

ขั้นตอนติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์บน CentOS 7:

ขั้นแรกในกระบวนการติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์บน CentOS 7 คือการสร้างแม่แบบสำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์โดยใช้คำสั่ง yum. ดังนั้นให้เปิด terminal หรือหน้าต่างคอมมานด์ไลน์บน CentOS 7 แล้วป้อนคำสั่งดังต่อไปนี้:

“`
sudo yum install httpd
“`

เมื่อคำสั่งถูกต้องและเครื่องหมายตัวอักษร Y/n ปรากฏขึ้นให้พิมพ์ “Y” เพื่อดำเนินการติดตั้งและกด Enter เพื่อยืนยัน

หลังจากนั้นหน้าจอที่แสดงผลจะแสดงเอกสารที่อธิบายสิ่งที่เว็บเซิร์ฟเวอร์สามารถทำได้ เมื่อคุณเห็นข้อความฉบับนี้แสดงว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache HTTP ได้ถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache HTTP ถูกติดตั้ง เว็บไซต์ของคุณจะถูกเก็บไว้ในไดเร็กทอรี /var/www/html. คุณสามารถเริ่มต้นสร้างหรือแก้ไขไฟล์เว็บไซต์ของคุณได้โดยใช้ FTP client หรือโปรแกรมหรือเครื่องมือที่คุณวางใจ

หลังจากนั้นคุณต้องเปิดพอร์ตเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้เบราว์เซอร์สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์ ค่าพอร์ตที่ใช้งานโดยทั่วไปของเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache HTTP คือ 80. หากคุณต้องการเปลี่ยนค่าพอร์ตนี้มิตรภาพคุณสามารถทำได้โดยแก้ไขไฟล์ /etc/httpd/conf/httpd.conf ซึ่งเป็นไฟล์การกำหนดค่าหลักของเซิร์ฟเวอร์ ให้ค้นหาคำว่า “Listen 80” แล้วแก้ไขเป็นพอร์ตที่คุณต้องการ เช่น “Listen 8080” เมื่อแก้ไขเสร็จให้บันทึกไฟล์และปิดแอพพลิเคชันการแก้ไขของคุณ

เมื่อคุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แล้ว คุณอาจต้องทำการกำหนดค่าการระบายสีของเว็บไซต์, การกำหนดค่าการเข้าถึงสำหรับไดเรกทอรีเฉพาะ และการตั้งค่าอื่น ๆ ซึ่งสามารถทำได้โดยแก้ไขไฟล์ /etc/httpd/conf/httpd.conf. คุณสามารถดูเอกสารออนไลน์ของ Apache HTTP Server เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดค่าเหล่านี้

การนำเสนอเว็บไซต์ของคุณให้เป็นไปอย่างปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ เพื่อรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ Apache สามารถกำหนดค่าให้ใช้งาน SSL/TLS ได้. คุณสามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น Let’s Encrypt เพื่อรับใบรับรองความปลอดภัย SSL/TLS แบบฟรี หลังจากที่คุณได้รับใบรับรองความปลอดภัยนี้ คุณสามารถกำหนดค่า Apache เพื่อใช้งาน SSL/TLS ด้วยใบรับรองของคุณได้โดยแก้ไขไฟล์ /etc/httpd/conf.d/ssl.conf. อย่าลืมทำการอ่านเอกสารและแนวทางที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการกำหนดค่าอย่างถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อย:

1. ประเภทเว็บเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ที่สามารถใช้งานได้บน CentOS 7 คืออะไร?
บน CentOS 7 นอกจาก Apache ยังมีเว็บเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ที่สามารถใช้งานได้ เช่น Nginx, Lighttpd, และ Microsoft IIS

2. มีวิธีใดบ้างที่จะสามารถตรวจสอบว่า Apache กำลังทำงานหรือไม่?
คุณสามารถใช้คำสั่งดังต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบสถานะของ Apache:
“`
sudo systemctl status httpd
“`

3. ทำไมฉันไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของฉันได้หลังจากการติดตั้ง Apache?
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Apache กำลังทำงานอยู่ ให้ตรวจสอบค่าพอร์ตที่ใช้งานของ Apache ส่วนมากคือพอร์ต 80 (หรือพอร์ตที่คุณกำหนด), อีกทั้งตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์เว็บไซต์และการกำหนดค่าไฟล์ /etc/httpd/conf/httpd.conf และ /etc/httpd/conf.d/ssl.conf

4. จะใช้หน่วยความจำและทรัพยากรระบบเท่าใดเมื่อติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache บน CentOS 7?
Apache HTTP Server จะใช้หน่วยความจำจำนวนน้อยและทรัพยากรระบบที่ไม่มากมาย เมื่อติดตั้งแล้ว

5. วิธีการกำหนดค่าการเข้าถึงสำหรับไดเรกทอรีเฉพาะใน Apache?
คุณสามารถกำหนดค่าการเข้าถึงสำหรับไดเรกทอรีเฉพาะได้ในไฟล์ .htaccess ซึ่งต้องถูกตั้งค่าให้หมายถึง AllowOverride All ในไฟล์คอนฟิกการติดตั้งของ Apache

มี 24 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ติดตั้ง centos 7.