วิธีเปลี่ยน Dns ให้เร็วและง่ายๆ

วิธีเปลี่ยน DNS: คู่มือสำหรับการเปลี่ยน DNS และการตั้งค่าในระบบปฏิบัติการทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS

ความสำคัญของการเปลี่ยน DNS
การเปลี่ยน DNS (Domain Name System) มีความสำคัญอย่างมากต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ หลังจากที่คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของคุณ โดยปกติผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะกำหนด DNS default ให้คุณ แต่ DNS default แบบนี้อาจมีปัญหาเช่น ความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ช้า หรือเนื้อหาที่ถูกบล็อกโดยบางสถานที่ ดังนั้นการเปลี่ยน DNS เป็นแนวทางที่ดีในการแก้ปัญหานี้

วิธีตรวจสอบ DNS ปัจจุบัน
เพื่อทราบ DNS ปัจจุบันของคุณ คุณสามารถทำการตรวจสอบได้ดังนี้:

1. ใน Windows:
– เปิด Command Prompt โดยการกดปุ่ม Windows + R แล้วพิมพ์ “cmd” และกด Enter
– พิมพ์ “ipconfig /all” และกด Enter
– ค้นหาค่า “DNS Servers” ในรายการที่แสดงผล

2. ใน macOS:
– เปิด Terminal โดยการไปที่ Applications > Utilities > Terminal
– พิมพ์ “networksetup -getdnsservers Wi-Fi” แล้วกด Enter
– หากคุณเชื่อมต่อผ่านสาย Ethernet ให้ใช้คำสั่ง “networksetup -getdnsservers Ethernet”

3. ใน Android:
– เปิด Settings บนอุปกรณ์ของคุณ
– เลือก Wi-Fi และกดค้างที่ชื่อของเครือข่ายที่กำลังเชื่อมต่อ
– เลือก “Modify Network”
– เลื่อนลงมาและเลือก “Advanced Options”
– จากนั้นคุณจะสามารถเห็น DNS ปัจจุบันที่ใช้มากับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ

4. ใน iOS:
– เปิด Settings บนอุปกรณ์ของคุณ
– เลือก Wi-Fi และกดค้างที่ชื่อของเครือข่ายที่กำลังเชื่อมต่อ
– เลือก “Configure DNS”
– เลือก “Manual” และลบ DNS ปัจจุบัน
– ใส่ DNS ใหม่ของคุณโดยใช้ปุ่ม “Add Server”

เครื่องมือสำหรับเปลี่ยน DNS
มีเครื่องมือหลายรูปแบบที่คุณสามารถใช้ในการเปลี่ยน DNS ของคุณ รวมถึง:

1. เครื่องมือการตั้งค่าในระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Android, iOS เป็นลักษณะของระบบปฏิบัติการแต่ละประเภทที่ช่วยให้คุณแก้ไขการตั้งค่า DNS
2. เครื่องมือเครือข่าย: บางรายการเครื่องมือเครือข่ายที่อาจช่วยให้คุณเปลี่ยน DNS ได้ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องปรับตั้งค่าในระบบปฏิบัติการของคุณ

วิธีเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ Windows
การเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ Windows สามารถทำได้โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิกขวาที่ไอคอนเครือข่ายในแถบงานและเลือก “Open Network & Internet Settings”
2. เลือก “Change Adapter Options”
3. เลือกเครือข่ายที่ต้องการเปลี่ยน DNS (เช่น Wi-Fi)
4. คลิกขวาและเลือก “Properties”
5. เลือก “Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4)” และคลิก “Properties”
6. เลือก “Use the following DNS server addresses” และป้อน DNS ของคุณในช่อง “Preferred DNS server” และ “Alternate DNS server”
7. คลิก “OK” เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

วิธีเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ macOS
การเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ macOS สามารถทำได้โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิกที่ไอคอน Apple บนแถบเมนูหลักและเลือก “System Preferences”
2. เลือก “Network”
3. เลือกเครือข่ายที่ต้องการเปลี่ยน DNS (เช่น Wi-Fi)
4. คลิก “Advanced” และเลือก “DNS” ทางด้านบน
5. คลิกที่ปุ่ม “+” เพื่อเพิ่ม DNS และป้อน DNS ของคุณ
6. คลิก “OK” เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

วิธีเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ Android
การเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ Android สามารถทำได้โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

1. เปิด Settings บนอุปกรณ์ของคุณ
2. เลือก “Network & internet” และเลือก “Wi-Fi”
3. เลือกเครือข่ายที่ต้องการเปลี่ยน DNS
4. แตะที่ “IP settings” (หรือ “Advanced” หากอุปกรณ์ของคุณใช้รุ่น Android เก่ากว่า)
5. เลือก “Static” และป้อน DNS ของคุณในช่อง “DNS 1” และ “DNS 2”
6. แตะ “Save” เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

วิธีเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ iOS
การเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการ iOS สามารถทำได้โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

1. เปิด Settings บนอุปกรณ์ iOS ของคุณ
2. เลือก “Wi-Fi” และเลือกเครือข่ายที่ต้องการเปลี่ยน DNS
3. เลื่อนลงไปที่ส่วน “DNS” และแตะที่จานวน DNS ปัจจุบัน
4. ลบ DNS ปัจจุบันและป้อน DNS ของคุณ
5. เลือก “Save” เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

การเลือก DNS ที่เหมาะสมสำหรับความเร็วและความปลอดภัย
ทำไมการเลือก DNS ที่เหมาะสมถึงสำคัญ? เพราะ DNS ที่เลือกมีผลต่อความเร็วและความปลอดภัยของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ ดังนั้นคุณควรพิจารณาด้านล่างเมื่อเลือก DNS:

1. ความเร็ว: DNS ที่ดีจะช่วยลดเวลาในการค้นหาเว็บไซต์และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คุณเข้าชม คุณควรเลือก DNS ที่มีเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วและมีการอัปเดตเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับการเชื่อมต่อหลายล้าน

2. ความปลอดภัย: DNS ที่ดีควรมีระบบที่มีความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DNS cache poisoning และ DDoS คุณควรเลือก DNS ที่มีการรักษาความปลอดภัยและมีการอัปเดตระบบป้องกันต่อไปนี้

การติดตามการเปลี่ยนแปลง DNS และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการ
หลังจากที่คุณเปลี่ยน DNS คุณควรตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณว่ายังคงทำงานได้หรือไม่ หากขณะเปลี่ยน DNS คุณพบปัญหาหรือการเชื่อมต่ออ่านง่ายการดำเนินการต่อไปขื่ออภัยของคุณ

นอกจากนี้ คุณอาจพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยน DNS เช่น การเชื่อมต่อ WiFi ที่ไม่เสถียร การเข้าถึงเว็บไซต์ที่ช้า เป็นต้น ในกรณีที่เกิดปัญหานี้ คุณควรสอบถามผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหรือเครือข่ายภายในการสนับสนุน

FAQs

1. เปลี่ยน DNS มือถือคืออะไร?
– DNS มือถือเป็นการเปลี่ยนค่า DNS บนอุปกรณ์มือถือ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วและการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์

2. วิธีเปลี่ยน DNS ใน Google Chrome?
– ใน Google Chrome คุณสามารถเปลี่ยน DNS โดยเพิ่ม

DNS ไหนเร็วสุด: การแก้ปัญหาความหน่วงเหนียวในการเข้าถึงเว็บไซต์

ในชีวิตประจำวันของเราเอง การที่เราสามารถเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ได้รวดเร็วและสะดวกสบายถือเป็นสิ่งที่เราสำคัญอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราอาจพบว่าการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์หรือแล็ปพลิเคชันที่เราต้องการใช้งานอาจเกิดความหน่วงเหนียว หรือหล่นการเชื่อมต่อได้ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากปัญหา DNS (Domain Name System) ที่ใช้สำหรับแปลงชื่อโดเมนเป็นที่อยู่ IP ไม่รวดเร็วเพียงพอ ด้วยเหตุนี้เอง DNS ไหนเร็วสุดกล่าวถึงการค้นหา DNS service ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ในบทความนี้เราจะพูดถึงรายละเอียดการทำงานของ DNS กับ DNS ไหนเร็วสุด รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและวิธีการแก้ไข

DNS คืออะไรและภาพรวมของการทำงาน
DNS เป็นระบบที่ใช้สำหรับแปลง URL หรือโดเมนเนมที่เราพิมพ์บนเว็บเบราว์เซอร์เป็นที่อยู่ IP ซึ่งใช้ในการติดต่อเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องจำแนกช่องเก็บข้อมูลของเว็บไซต์แต่ละตัว ระบบ DNS ประกอบด้วยหลายส่วน ซึ่งได้แก่ Resolver, Root Nameserver, Top-level Domain Nameserver และ Authoritative Nameserver

เมื่อเราพิมพ์ URL บนเว็บเบราว์เซอร์ เราจะส่งคำขอของเราไปยัง Resolver ซึ่งเป็นตัวแปลง URL เป็นที่อยู่ IP และคิวรอของเราจะถูกส่งไปยัง Root Nameserver เพื่อทำการสอบถามที่อยู่ของ Top-level Domain Nameserver ที่เกี่ยวข้อง เมื่อเรารับคำตอบกลับมาจาก Top-level Domain Nameserver เราจะได้ที่อยู่ของ Authoritative Nameserver ซึ่งจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ URL ที่เราต้องการ เมื่อ Resolver ได้รับที่อยู่จาก Authoritative Nameserver แล้ว ที่อยู่ IP สามารถนำมาใช้ในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่เป้าหมายได้

DNS ไหนเร็วสุดคืออะไร
DNS ไหนเร็วสุดคือเบอร์เซิร์ว DNS ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการจัดการการแปลงชื่อโดเมนเป็นที่อยู่ IP การเลือกใช้ DNS ไหนเร็วสุดสำคัญอย่างยิ่งในกรณีที่คุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรที่จำเป็นและต้องการให้การเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็วและมั่นคง

การเลือกใช้ DNS ไหนเร็วสุดและการกำหนดค่า
การเลือกใช้ DNS ไหนเร็วสุดสามารถทำได้โดยการเปลี่ยนตัวแก้ไข DNS ในระบบปฏิบัติการของคุณ ในส่วนมากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะมอบ DNS server ให้ในการเชื่อมต่อเริ่มต้น แต่อย่างไรก็ตาม DNS server ที่ได้รับจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอาจไม่สามารถให้ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่สูงที่สุดในบางครั้ง ในกรณีนี้คุณสามารถเปลี่ยน DNS ได้โดยใช้ DNS ไหนเร็วสุดที่มีอยู่ในตลาด อย่างใดอย่างหนึ่งคือ Google Public DNS

Google Public DNS เป็นบริการ DNS จาก Google ที่เค้าโครงขึ้นมาเพื่อให้ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อสูงที่สุดและความเสถียรที่สูง โดยใช้ตัวแก้ไข DNS ตั้งค่าเป็น 8.8.8.8 และ 8.8.4.4 ที่เป็นที่อยู่ IP ของ Google

ตัวแก้ไข DNS อื่นๆ ที่ควรพิจารณาด้วยรวมถึง Cloudflare DNS, OpenDNS, และ Quad9 เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วการเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการมีขั้นตอนง่ายๆ และสามารถทำได้โดยการเพิ่มหรือแก้ไข DNS server ในการตั้งค่าเครือข่ายของคุณ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ DNS ไหนเร็วสุด
1. DNS ไหนเร็วสุดคืออะไร?
DNS ไหนเร็วสุดคือเบอร์เซิร์ว DNS ที่มีประสิทธิภาพและมีความเสถียรสูงในการแปลงชื่อโดเมนเป็นที่อยู่ IP

2. ทำไมการใช้ DNS ไหนเร็วสุดมีความสำคัญ?
การใช้ DNS ไหนเร็วสุดสำคัญเพื่อให้การเข้าถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดี

3. ควรเปลี่ยน DNS สำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของฉันหรือไม่?
การเปลี่ยน DNS ไหนเร็วสุดสามารถช่วยให้ประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณสูงขึ้นได้ แต่ควรตระหนักถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นเช่นการค้นหา DNS server ที่ไม่ทันสมัยหรือไม่เสถียรที่สุด

4. ระบบปฏิบัติการที่สามารถเปลี่ยน DNS ได้อย่างไร?
ขั้นตอนการเปลี่ยน DNS แต่ละระบบปฏิบัติการไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น สำหรับ Windows คุณสามารถเปลี่ยน DNS ได้โดยไปที่ Control Panel > Network and Internet > Network and Sharing Center > Change Adapter Settings และเลือกเครือข่ายที่ต้องการเปลี่ยน DNS จากนั้นคลิกขวาและเลือก Properties > Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4) > Properties เพื่อกำหนด DNS ใหม่ในการตั้งค่าเครือข่าย

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะแตกต่างไปแต่ละระบบปฏิบัติการ เราทำการแนะนำให้คุณทำความเข้าใจกับระบบและวิธีการตั้งค่าของคุณก่อนการเปลี่ยนแปลง DNS ไห้เหมาะสม

สรุป
DNS ไหนเร็วสุดเป็นการเลือกใช้ DNS service ที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วเพื่อให้การเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ DNS ไหนเร็วสุดสามารถช่วยแก้ไขปัญหาความหน่วงเหนียวในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เราต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของ DNS ไหนเร็วสุดถูกต้องสำหรับบุคคลที่ต้องการประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ดีที่สุด อีกทั้งการเปลี่ยน DNS ไหนเร็วสุดในระบบปฏิบัติการสามารถทำได้เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ และสามารถทำให้ประสิทธิภาพเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณดีขึ้นได้

ดังนั้น ในกรณีที่คุณพบปัญหาความหน่วงเหนียวในการเข้าถึงเว็บไซต์โปรดของคุณ จากนี้เป็นต้นไปคุณสามารถพิจารณาใช้ DNS ไหนเร็วสุดเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นได้เลย

FAQs:
1. DNS คืออะไร?
DNS หมายถึง Domain Name System ที่ใช้สำหรับแปลงชื่อโดเมนเป็นที่อยู่ IP เพื่อให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันสามารถเข้าถึงได้

2. DNS ไหนเร็วสุดที่ควรเลือกใช้?
DNS ไหนเร็วสุดที่ควรเลือกใช้รวมถึง Google Public DNS, Cloudflare DNS, OpenDNS, และ Quad9

3. อย่างไรควรเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการของฉัน?
ขั้นตอนการเปลี่ยน DNS ในระบบปฏิบัติการแต่ละระบบไม่เหมือนกัน คุณสามารถทำความเข้าใจวิธีการที่ถูกต้องโดยการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งาน

4. การเปลี่ยน DNS จะมีผลกระทบอะไ

DNS Server เป็นองค์ประกอบสำคัญในโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการแปลงชื่อโดเมนเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าถึงและรู้จักกันได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ DNS Server ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การกำหนดค่าและปรับแต่งโครงข่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถทำงานได้อย่างเสถียรและต่อเนื่อง

DNS ย่อมาจาก Domain Name System ซึ่งถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อช่วยแปลงชื่อโดเมนให้เป็นที่อยู่ IP ในการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ กระบวนการนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และบริการอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องจำจองหมายเลข IP ที่ซับซ้อน

หลักการทำงานของ DNS Server นั้นก็เข้าใจได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถสรุปรวมได้ตามขั้นตอนดังนี้:

1. ขอข้อมูล: เวลาที่เราพิมพ์ชื่อโดเมนของเว็บไซต์บนเว็บเบราว์เซอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจะทำการขอข้อมูลจาก DNS Server เพื่อทราบ IP ที่เกี่ยวข้องกับโดเมนนั้น ๆ

2. การตรวจสอบความถูกต้อง: หลังจากที่ DNS Server ได้รับคำขอหาว่ามีใครเป็นเจ้าของโดเมนนี้ และหากพบว่าไม่มีการกำหนด IP ที่เกี่ยวข้องกับโดเมนนี้ จะทำการตรวจสอบฐานข้อมูลของ DNS Server หรือขอข้อมูลจาก DNS Server ที่สามารถให้ข้อมูลได้

3. การส่งข้อมูล: เมื่อ DNS Server เจอข้อมูล IP ที่ถูกต้องของโดเมนนั้น ๆ จะส่งข้อมูล IP นั้นกลับมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ทำให้เราสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย

นอกจากการแปลงชื่อโดเมนเป็นที่อยู่ IP DNS Server ยังมีบทบาทสำคัญอื่น ๆ ที่ควรระวังให้ดี เช่น

1. ความเร็วการเข้าถึง: การที่ DNS Server ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดเวลาในการเข้าถึงเว็บไซต์และบริการต่าง ๆ และช่วยประหยัดแบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ต

2. ความเสถียรภาพ: DNS Server ที่มีความเสถียรสูงสามารถรับมือกับแรงกดดันและความซับซ้อนได้ โดยไม่เสียประสิทธิภาพการทำงาน

3. ความปลอดภัย: DNS Server จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถปรับแต่งการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีการระบุสิทธิผู้ใช้โดยอัตโนมัติและสามารถตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์ด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ DNS Server

1. DNS Server หมายถึงอะไร?
DNS Server หมายถึงเซิร์ฟเวอร์ที่มีหน้าที่ตรวจสอบและแปลงชื่อโดเมนให้เป็นที่อยู่ IP เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าถึงและรู้จักกันได้อย่างสะดวก

2. DNS Server ทำงานอย่างไร?
DNS Server ทำงานโดยจะรับข้อมูลชื่อโดเมนจากผู้ใช้งาน แล้วสืบค้นเพื่อหา IP ที่เกี่ยวข้องจากฐานข้อมูล DNS หากพบก็จะส่งข้อมูล IP กลับมาแสดงผลให้ผู้ใช้งาน

3. หากมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับ DNS Server จะส่งผลกระทบอย่างไร?
หากไม่สามารถเชื่อมต่อกับ DNS Server ได้ ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์และบริการต่าง ๆ ได้ และจะต้องกรอกที่อยู่ IP ของเว็บไซต์เองแทน

4. มีวิธีการเปลี่ยน DNS Server ได้อย่างไร?
การเปลี่ยน DNS Server สามารถทำได้โดยการเข้าสู่การตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ และเลือกเปลี่ยนค่า DNS Server ใหม่ที่ต้องการ แต่ละระบบปฏิบัติการอาจจะมีขั้นตอนและตำแหน่งที่ต่างกันไป

5. มี DNS Server อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่จัดหาได้ใช้บ้างหรือไม่?
ในส่วนใหญ่จะใช้ DNS Server ที่จัดหาได้จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต อย่างเช่น DNS Server จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่คุณได้รับการเชื่อมต่อ แต่ยังมีผู้ใช้งานที่เลือกใช้ DNS Server บุคคลที่สาม ที่ให้ความเร็วและความสมดุลในการแปลงชื่อโดเมน

เปลี่ยน DNS มือถือ: เข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตได้เข้าสู่ชีวิตประจำวันของเราอย่างไม่ยับยั้ง สมาร์ทโฟน ที่เป็นเครื่องมือที่อุดมสมบูรณ์แบบสำหรับการสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูล เป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลขณะนี้

DNS หรือ Domain Name System เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการติดต่อประสานเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มันทำหน้าที่แปลงบัญชี IP ที่เป็นตัวเลขให้เป็นชื่อโดเมนของเว็บไซต์ที่เราต้องการเข้าถึง การใช้งาน DNS ให้ถูกต้องและรวดเร็วสามารถช่วยเรื่องการเชื่อมต่อและชนิดการเข้าถึงหมายความว่าจะสามารถเรียกดูเนื้อหาออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

แม้ว่าอุปกรณ์มือถือเราจะมาพร้อมกับการกำหนดค่า DNS ตามค่าเริ่มต้น ที่ถูกจัดให้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่บางครั้งเราอาจประสบปัญหาในการเชื่อมต่อหรือการเข้าถึงที่ช้าหรือไม่สามารถเข้าถึงที่เราต้องการได้อย่างเต็มที่ ในกรณีเช่นนี้การเปลี่ยน DNS มือถือของคุณอาจจะช่วยให้คุณพบประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบขึ้นและอำนวยความสะดวกมากขึ้นได้

วิธีการเปลี่ยน DNS มือถือของคุณทำได้ง่ายด้วยไม่กี่คลิกเท่านั้น และในบทความนี้เราจะมาอธิบายวิธีการเปลี่ยน DNS มือถือทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS

การเปลี่ยน DNS มือถือบน Android

เพื่อเปลี่ยน DNS มือถือของคุณให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

1. เปิดเมนูตั้งค่าบนสมาร์ทโฟน Android ของคุณ
2. เลือกไอคอน “เชื่อมต่อไร้สายและเครือข่าย”
3. แตะที่ “ระบบปฏิบัติการและการตั้งค่าเสริม”
4. เลือก “เครือข่ายและการแชร์”
5. แตะที่ “Wi-Fi”
6. ระบุ Wi-Fi ที่ต้องการเปลี่ยน DNS
7. แตะที่ “รายละเอียด”
8. ในหน้าค่า Wi-Fi หลัก แตะที่ “แสดงการตั้งค่าเพิ่มเติม”
9. เลือก “IP” และแตะที่ “แสดงการตั้งค่า IP”
10. เลือก “แจง IP แบบเข้มข้น (DHCP) หรือแจง IP แบบส่งตรง”
11. แก้ไข “IP แบบส่งตรง” เป็น “แรนดอม IP”
12. ป้อน DNS ที่คุณต้องการเปลี่ยนในช่อง “DNS 1” และ “DNS 2” ตามลำดับ
13. แตะที่ “บันทึก” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

ในบางกรณี ในขณะที่การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi คุณอาจก็จะพบว่าคุณไม่สามารถปรับเปลี่ยน DNS ได้ ต่อไปนี้คือวิธีเปลี่ยน DNS โดยใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับ Android:

1. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่น DNS Changer ในร้านค้า Google Play
2. เปิดแอพพลิเคชั่นและอนุญาตให้แอพพลิเคชั่นเข้าถึงการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าของระบบ
3. ในเมนูหลักของแอพพลิเคชั่น DNS Changer แตะที่ “DNS”
4. เลือก “DNS เล่นเพลย์เซอร์วิช” และป้อน DNS จากผู้ให้บริการ DNS ที่คุณต้องการ
5. แตะที่ “บันทึก” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยน DNS มือถือบน iOS

ขั้นตอนการเปลี่ยน DNS มือถือบน iOS นั้นง่ายไม่แตกต่างกับการเปลี่ยน DNS บน Android เลย สิ่งที่คุณต้องทำคือ:

1. เปิดเมนูตั้งค่าบนอุปกรณ์ iOS ของคุณ
2. เลือก “Wi-Fi”
3. แตะที่ซิกเนลข้างชื่อเครือข่าย Wi-Fi ที่คุณต้องการเปลี่ยน DNS
4. เลื่อนลงไปที่ “แสดงการตั้งค่า DNS”
5. แตะที่ “ดูปลอดสารจากผู้ติดตั้ง”
6. แตะที่ “ป้อน DNS แบบเริ่มต้น” และป้อน DNS ที่คุณต้องการ
7. แตะที่ “บันทึก” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

ในบางกรณี ระบบ iOS อาจจะไม่ให้ใช้งานฟีเจอร์การเปลี่ยน DNS ในเครือข่าย Wi-Fi ที่คุณกำลังเชื่อมต่ออยู่ ในกรณีเช่นนี้คุณสามารถใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับ iOS เพื่อเปลี่ยน DNS ได้ ต่อไปนี้คือวิธีการเปลี่ยน DNS โดยใช้แอพสำหรับ iOS:

1. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพ DNS Override จาก App Store
2. เปิดแอพพลิเคชั่นและอนุญาตให้แอพพลิเคชั่นเข้าถึงการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าของระบบของคุณ
3. แตะที่ “DNS Override” ในรายการ “การตั้งค่า”
4. เปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นและป้อน DNS จากผู้ให้บริการ DNS ที่คุณต้องการ
5. แตะที่ “บันทึกการตั้งค่า” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

พิจารณาด้วยเสมือนว่าคุณเป็นผู้อยู่ร่วมสมัยที่รักการอ่านอย่างจริงจัง เราเข้าใจว่าคุณอาจมีคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยน DNS มือถือ ดังนั้นเราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อให้คุณสามารถมีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น

FAQs เกี่ยวกับการเปลี่ยน DNS มือถือ

1. ทำไมต้องเปลี่ยน DNS มือถือ?
การเปลี่ยน DNS มือถืออาจช่วยเพิ่มความเร็วในการติดต่อเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และช่วยป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ดีที่คุณไม่ต้องการสำรวจ โดยการเปลี่ยน DNS คุณอาจสามารถเข้าถึงบริการที่คล้ายคลึงกันที่มีระบบคัดกรองที่ดีกว่า

2. คุณควรประสบปัญหาอะไรเมื่อเปลี่ยน DNS มือถือ?
เมื่อเปลี่ยน DNS มือถือคุณอาจสูญเสียการกำหนดค่าเครือข่ายที่เฉพาะเจาะจงและการสมควรเป็นส่วนตัว แต่คุณสามารถคืนค่ามันได้โดยเปลี่ยน DNS กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นหรือโดยติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณ

3. DNS จะมีผลต่อความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ไหม?
ใช่, การเปลี่ยน DNS มือถืออาจช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ ระดับความเร็วขึ้นอยู่กับคุณภาพของผู้ให้บริการ DNS ที่คุณเลือกใช้

4. DNS เป็นสิ่งปลอดภัยหรือไม่?
DNS เป็นส่วนหนึ่งของการติดต่ออินเทอร์เน็ตและทำหน้าที่กำหนดมาตรการความปลอดภัยบางส่วน แต่มันไม่สามารถให้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอย่างสมบูรณ์ ไม่ควรและไม่ควรพึ่งพาเพียงเท่านี้เมื่อเรียกใช้ข้อมูลที่สำคัญ เช่นการทำรายการทางการเงิน โดยจะควรใช้วิธีการปกป้องอื่น ๆ อีกมากมายเช่นการเข้าสู่ระบบความปลอดภัยที่มีการสคริปท์อย่างมีความเข้มงวดหรือใช้เครือข่ายเสมือนจริงที่เชื่อมต่อแบบ VPN

5. การเปลี่ยน DNS มือถือจะมีผลกระทบอะไรบ้าง?
การเปลี่ยน DNS มือถือคุณอาจเป็นไปได้ที่จะเห็นผลกระทบบางอย่างในการใช้งานหน้าเว็บออกมามากขึ้น และอาจจะเข้าถึงเนื้อหาที่ปรับแต่งและประสบปัญหาในการเปิดเว็บไซต์บางเว็บไซต์ที่กำหนด DNS ดังกล่าวในกรณีเช่น DDOS

หมายเหตุ: การเปลี่ยน DNS มือถืออาจให้ผลที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้งานบนเครือข่าย การตั้งค่าและการประเมินผ

เปลี่ยน DNS Chrome: วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณ

การเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่สำคัญมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการทำงาน การศึกษา หรือเพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียรคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่บางครั้งอาจจะเกิดปัญหาที่ทำให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตช้าลง เช่นเดียวกับการหลุดต่อจากเว็บไซต์ที่คุณกำลังเยี่ยมชม การเปลี่ยน DNS (Domain Name System) บน Chrome อาจเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อเน็ตของคุณได้

DNS เป็นระบบที่คอยแปลงชื่อโดเมนเป็นที่อยู่ IP ที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้น เมื่อคุณพิมพ์เว็บไซต์ลงในเบราว์เซอร์ เมื่อไรที่ DNS ของคุณสามารถแปลงชื่อโดเมนเป็นที่อยู่ IP ของเว็บไซต์นั้น ๆ ได้เร็ว เร็วเท่านั้นที่คุณจะสามารถเปิดเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

เมื่อใช้ DNS ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือบางครั้งคุณอาจพบว่าการเชื่อมต่ออาจช้าลง เนื่องจากบริการ DNS ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางระดับอาจไม่สามารถรองรับปริมาณผู้ใช้งานมากพอ นอกจากนี้ บริการ DNS ที่ไม่มีความสามารถในการจัดการแบบไดนามิกอาจทำให้คุณพบปัญหาการ์ดเรื่องในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่พยายามเล่นวิดีโอหรือสตรีมมิ่งสื่อ

สำหรับผู้ใช้งาน Chrome วิธีเปลี่ยน DNS ของคุณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็ไม่ยากเลย ตามขั้นตอนด้านล่างนี้:

ขั้นแรกให้คุณเปิด Google Chrome บนอุปกรณ์ของคุณ แล้วคลิกที่ปุ่มเมนูที่มุมบนขวาของหน้าต่างเบราว์เซอร์ของคุณ (สัญลักษณ์ที่มีรูปเป็นหมุด) จากนั้น เลือก “การตั้งค่า” จากเมนูดรอปดาวน์ที่ปรากฏ

เมื่อคุณเข้าถึงหน้าต่างการตั้งค่าของ Chrome ให้คุณเลื่อนลงมาด้านล่างของหน้าต่างและคลิกที่ “เพิ่มการตั้งค่าขั้นสูงเพิ่มเติม”

ในหน้า “การตั้งค่าเพิ่มเติม” คุณจะพบกับการตั้งค่าเพิ่มเติมที่ไม่อยู่ในหน้าเริ่มต้นของ Chrome ให้คุณเลื่อนลงมาและค้นหา “เปิดตัวเลือก DNS” เมื่อค้นหาเสร็จสิ้น ให้คุณคลิกที่ “เปิด”

เมื่อคุณคลิกที่ “เปิด” เกิดขึ้น คุณจะเห็นว่า DNS เปลี่ยนเป็น “การตั้งค่าด้วยตนเอง” เมื่อคุณเข้าถึงหน้าต่างการตั้งค่า DNS ให้คุณเลือก “ป้อนที่อยู่ DNS” และป้อนที่อยู่ DNS ที่คุณต้องการใช้ (คุณอาจต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับที่อยู่ DNS ที่เหมาะสม)

หลังจากนั้น คุณสามารถเปิดเว็บไซต์ใด ๆ และเพลงคุณลองเปิดเว็บไซต์นั้น คุณควรพบว่ามีแท็บเว็บหรือเว็บไซต์เปิดแสดงผลเร็วขึ้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQs):

1. ประโยชน์ของการเปลี่ยน DNS เป็นอย่างไร?
การเปลี่ยน DNS สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณได้ โดยอาจเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์และลดเวลาโหลดของหน้าเว็บได้

2. ที่อยู่ DNS เหมาะสมคืออะไร?
ที่อยู่ DNS เหมาะสมคือที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่มีประสิทธิภาพและให้บริการที่ดีต่อความเร็วและการเชื่อมต่อ

3. จะทำอย่างไรถ้าต้องการกลับไปใช้ DNS เดิม?
ในหน้าต่าง “การตั้งค่า DNS” บน Chrome ให้คุณเลือก “อัตโนมัติ” เพื่อใช้ DNS ปกติที่ได้รับจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ

4. สามารถใช้ DNS ที่ให้บริการโดยบุคคลที่สามได้หรือไม่?
ใช่ คุณสามารถใช้ DNS ที่ให้บริการโดยบุคคลที่สามได้ โดยเมื่อคุณเลือก “ป้อนที่อยู่ DNS” เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถป้อนที่อยู่ DNS ที่คุณได้รับจากผู้ให้บริการดังกล่าว

5. การเปลี่ยน DNS สามารถช่วยลดอาการค้างและการดันเว็บได้หรือไม่?
ใช่ การเปลี่ยน DNS บางครั้งอาจช่วยลดอาการค้างและการดันเว็บได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณใช้ DNS ที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยน DNS เป็นเพียงวิธีเพิ่มประสิทธิภาพอย่างหนึ่งที่คุณสามารถลองใช้เมื่อพบปัญหาในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต คุณอาจพบว่าการเปลี่ยน DNS ช่วยให้คุณพบประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากผลลัพธ์ไม่น่าพอใจ คุณอาจต้องพิจารณาปัญหาอื่นที่อาจก่อให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณ

มี 30 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วิธีเปลี่ยน dns.